เหตุบังเอิญ...ภาพแห่งความทรงจำ
จีราภัทร์ได้นอนหลับอย่างสงบที่โรงพยาบาลอย่างไม่มีวันกลับมา ฉันกับมานพกอดลูกชายที่นอนนิ่งสงบเหลือเพียงภาพถ่ายครอบครัว สามคนพ่อ แม่ และลูกที่ยังเก็บความทรงจำ..........
ผู้เข้าชมรวม
307
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เหตุบังเอิญ...ภาพแห่งความทรงจำ
ณ บ้านทาเฮ้าส์แห่งหนึ่งอันเงียบสงบ ฉันกำลังนั่งบนเก้าอี้ม้าโยกรับลมระเบียงบ้านยามเย็นฉันเหม่อมองท้องฟ้ากำลังชมพระอาทิตย์ตกดิน และพลางจับลูบท้องของตนที่นับวันเริ่มโตขึ้นจนเห็นได้ชัดว่าฉันกำลังมีหนึ่งชีวิตที่อยู่ในท้องของฉัน ฉันให้กำเนิดเขาด้วยความบังเอิญของโชคชะตาว่ามันเกิดขึ้นกับฉันได้อย่างไร
ฉันย้อนเวลาไปเมื่อห้าเดือนก่อนจะเกิดเรื่อง แม่ของฉันล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวจนเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวต้องใช้เงินจำนวนมาก พ่อของฉันต้องเที่ยวไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อรักษาชีวิตของแม่ไว้ ส่วนฉันเพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี ฉันพยายามหางานทำ แต่แล้วโชคชะตาไม่ได้เข้าข้างฉันให้เดินเส้นทางที่ดีมากนัก ฉันถูกฝ่ายบุคคลไล่ฉันออกจากงาน ฉันพูดให้กำลังใจตนเองว่าชีวิตคนเราย่อมมีขึ้นมีลงอยู่เสมอ เพื่อนของฉันแนะนำให้ฉันหาแฟนรวย ๆ แต่ฉันไม่เคยคิดจะทำแบบนั้น จนกระทั่งเพื่อนสนิทของพ่อแนะนำให้ฉันมาที่บริษัทของเขา ฉันเริ่มมีความหวังที่จะต่อสู้ชีวิตเพื่อครอบครัว
ในวันรุ่งขึ้นฉันแต่งตัวเตรียมจะสัมภาษณ์งานอย่างเต็มที่ เมื่อไปที่บริษัทเพื่อนของพ่อ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลผู้หญิงคนหนึ่งให้ฉันกรอกใบสมัครงาน และนัดสัมภาษณ์งานทันที เจ้าหน้าที่ผู้หญิงเธอบอกรายละเอียดเนื้องานว่า
“ทำงานที่นี้สบาย เธอเป็นเลขาฯ บอส แค่ทำงานตามคำสั่งของบอสได้ก็สบายแล้ว พี่ว่าเธอหน้าตาสวย เรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง อนาคตน่าจะไกล ดีแล้วที่ตัดสินใจเลือกมาทำงานที่นี้ แถมยังเป็นคนกตัญญูต่อพ่อแม่อีก”
“ขอบคุณค่ะที่พี่ชมหนู พี่ค่ะจะให้หนูเริ่มงานวันไหนค่ะ”
“วันนี้เลยค่ะ เซ็นสัญญานี้ แล้วเอาคู่มือปฏิบัติงานไปอ่านนะ” พี่ผู้หญิงยื่นซองน้ำตาลที่มีเอกสารให้กับฉัน ฉันรับแล้วกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะ นั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว หนูขอลาก่อนนะค่ะ”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ ดื่มน้ำก่อน ป้าเปียกอุตส่าห์มาเสิร์ฟน้ำให้ดื่ม พี่กลัวแกจะเสียใจ ถ้าไม่ดื่มน้ำของแก”
“ค่ะ” ฉันตอบรับแล้วดื่มน้ำเปล่าไปครึ่งแก้วก่อนที่จะลุกขึ้นออกจากห้องฝ่ายบุคคล ฉันเดินไปไม่กี่ก้าวรู้สึกโลกทั้งใบหมุนจนน่าเวียนหัวก่อนที่ร่างกายของฉันเริ่มทรงตัวไม่อยู่แล้วล้มหมดสติอยู่หน้าห้องฝ่ายบุคคล
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันมานอนอยู่ในห้องพักของตนเอง ฉันสับสนตนเองว่าทำไมฉันกลับมาอยู่ที่ห้องพักได้ยังไง แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรรีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ฉันได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากเพื่อนร่วมงานทุกคน วันแรกของการทำงาน ฉันนั่งเล่นคอมพิวเตอร์เปิดอินเตอร์เน็ตอ่านอะไรต่อมิอะไรจนน่าเบื่อ และฉันได้อ่านเอกสารในซองรายละเอียดการทำงาน ในนั้นมีรายละเอียดการทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานเลยซะนิด ในนั้นมีเนื้อหาเขียนว่า
“งานที่ผมให้คุณทำ ผมอยากให้คุณรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทำจิตใจให้เบิกบาน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ทุกมื้อ เวลาออกกำลังกาย ออกเบา ๆ อย่าออกแรงเยอะ เวลาเดินให้ระวังอย่าให้ลื่นล้ม ผมกลัวคุณจะเป็นอันตราย นอนพักให้เพียงพอวันละแปดชั่วโมง ดื่มนมกับน้ำให้มาก ๆ แล้วอย่าดื่มแอลกอฮอล์กับกาแฟ ผมเป็นห่วงสุขภาพของคุณ ขอให้คุณทำตามที่เขียนนะครับ ขอให้คุณมีความสุขกับหน้าที่งานที่มอบหมายให้คุณทำนะครับ”
“นี่อะไรกัน เขียนข้อความการทำงานแค่นี้นะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับงานเลย อันนี้มันให้ดูแล
ตัวเองชัด ๆ" ฉันบ่นพึมพำกับตนเองว่าบอสของฉันเขาคงเพี้ยนหรือเปล่า แต่ฉันก็เชื่อทำตามที่เขาสั่ง
ฉันถูกย้ายให้ไปอยู่บ้านทาเฮ้าส์หลังใหญ่ บอสบอกว่าฉันควรอยู่บ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้
ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปมากมายตั้งแต่มาอยู่บริษัทนี้ ฉันได้รับความเป็นอยู่ที่แสนสุขสบาย
มีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีคนรับใช้ทำงานบ้านให้ และมีมานพ เพื่อนที่แสนดีที่คอยจัดโภชนาการอาหาร
ให้กับฉัน และรับส่งฉันไปทำงานทุกเช้า และเย็น เวลาฉันอยากไปไหน เขาจะเป็นคนพา
ไปจนทุกคนเข้าใจผิดว่า ชายหนุ่มหน้าตาดีดูไม่น่าจะเป็นคนขับรถของฉันได้ ทุกคนเข้าใจว่า
เขาเป็นแฟนของฉัน
ผลงานอื่นๆ ของ nutthanan ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ nutthanan
ความคิดเห็น